วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ชาวนาไทย แพ้ ชาวนาลาว

ผมไม่แน่ใจว่า “ข้าวไทย” ที่ปลูกในประเทศไทยจริงๆ ไม่นับรวมข้าวที่ข้ามเขตมาจากฝั่งลาว เขมร และพม่า มาจำนำราคาแพงในเมืองไทย และส่งออกไปขายต่างประเทศในนามข้าวไทย จะยังส่งออกเป็น “อันดับ 1 ของโลก” อย่างที่ คุณบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีพาณิชย์ ท่องจำมาหรือไม่

แต่ที่แน่นอนก็คือ ผลผลิตข้าวต่อไร่ ของ ชาวนาไทย แพ้ ชาวนาลาว และ ชาวนาเวียดนาม ไปหลุดลุ่ย

ทุกรัฐบาลที่เข้ามาก็มีโครงการประชานิยม รับจำนำข้าวทุกเม็ด ประกันราคาข้าวทุกเม็ด อ้างว่า เพื่อช่วยให้ชาวนาไทยร่ำรวยขึ้น ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่คนที่รวยจากโครงการรับจำนำข้าวทุกเม็ด  ประกันราคาข้าวทุกเม็ด  ก็คือโรงสี พ่อค้าข้าว และนักการเมือง ส่วนชาวนาตัวจริงก็ถูกทอดทิ้งให้ “หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน” ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดไปวันๆเหมือนเดิม

คุณประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย บอกว่า ทุกวันนี้ชาวนาไทยยังเช่านาปลูกข้าวเหมือนเดิม ภาคกลางมีการเช่านาประมาณ 45% ส่วนชาวนาทั่วประเทศมีการเช่านาสูงถึง 75% ด้วยอัตราค่าเช่าไร่ละ 1,000 บาทต่อฤดูกาล และปลูกข้าวไปตามยถากรรม ได้ผลผลิตต่อไร่ต่ำ และยากจนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

สองสัปดาห์ก่อน นสพ.นิวยอร์กไทม์ มาทำสารคดีเรื่องชาวนาไทยไปลงในหน้าหนึ่ง บอกว่า หนุ่มสาวชนบทไทยเริ่มหันหลังให้กับไร่นามากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มของชาติในเอเชียที่กำลังเดินสู่ภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น

นสพ.นิวยอร์กไทม์  บอกว่า อาชีพชาวนาในไทยกำลังกลายเป็นอาชีพของคนสูงอายุมากขึ้น อายุเฉลี่ยของชาวนาไทยขยับขึ้นไปที่ 42 ปี ในปี 2553 จากอายุเฉลี่ย 31 ปี ในปี 2528 ชาวนาไทยที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปีในวันนี้มีเพียง 12% เท่านั้น (จากตัวเลขชาวนา 3,700,000 ครัวเรือน)

นิวยอร์กไทม์ไปสัมภาษณ์ มาลินี คำมูน เด็กสาวลูกชาวนาวัย 18 ปี ที่ไม่เคยลงนาปลูกข้าวเลยสักเม็ด เธอบอกว่า มันร้อนและเหนื่อย เธอไม่ชอบ เธอชอบที่จะใช้โทรศัพท์มือถือ  และโหลดภาพถ่ายของเธอลงในคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในชุมชนมากกว่า

เมื่อสองวันก่อน คุณบุญทรง รัฐมนตรีพาณิชย์ ก็ยังกัดฟันคุยว่า ปีนี้ ไทยจะยังส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลก จะส่งออกให้ได้ 8.5-9 ล้านตัน แต่ 5 เดือนแรก เพิ่งส่งออกได้แค่ 2.9 ล้านตัน เดือนหน้าจะไปเจรจากับเวียดนาม เพื่อร่วมกันจัดตั้ง สมาพันธ์ผู้ผลิตข้าวอาเซียน ซึ่งเป็นความฝันเฟื่องของไทย

แต่เมื่อเทียบ ประสิทธิภาพการผลิตข้าวต่อไร่ ของ ชาวนาไทย กับชาวนาเพื่อนบ้านอาเซียนที่ผลิตข้าวขายด้วยกันคือ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม แล้ว ข้อมูลที่ผมได้จาก นิตยสารข้าวไทย ฉบับล่าสุด พบว่า ผลผลิตข้าวต่อไร่ในปี 2554 ไทยสูสีกับกัมพูชาและพม่า แต่ แพ้ลาวและเวียดนาม หลุดลุ่ย

ชาวนาเวียดนามปลูกข้าวได้ 862.4 กิโลต่อไร่ สูงเป็น อันดับ 1 ในอาเซียน และสูงเป็น อันดับ 4 ในเอเชีย รองจากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีน สูงกว่าไทยเกือบ 2 เท่า โดย ชาวนาไทย ปลูกข้าวตามยถากรรมได้ 448 กิโลต่อไร่ เป็น อันดับ 7 ในอาเซียน และ อันดับ 13 ในเอเชีย จึงไม่น่าแปลกใจที่เวียดนามมีพื้นที่ปลูกข้าวน้อยกว่าไทย แต่กลับมีข้าวส่งออกมากเป็นอันดับ 2 รองจากไทย และมีโอกาสจะส่งออกแซงไทยในอนาคตด้วย

ที่น่าอับอายก็คือ ชาวนาไทยปลูกข้าวแพ้ชาวนาลาวมาตลอด ปี 2552 ลาวปลูกข้าวได้ 566.4 กิโลต่อไร่ ปี 53 ปลูกได้ 577.5 กิโลต่อไร่ ปี 54 ปลูกได้ 588.8 กิโลต่อไร่ เพิ่มขึ้นทุกปี แต่ปี 52 ชาวนาไทยปลูกข้าวได้ 448 กิโลต่อไร่ ปี 53 ปลูกได้ 449.6 กิโลต่อไร่ ปี 54 ปลูกได้ 448 กิโลต่อไร่ ผลผลิตต่อไร่ไม่เพิ่มขึ้นเลย น่าเศร้าใจไหม

แทนที่จะไปแก้ที่ปลายเหตุ รับจำนำข้าวทุกเม็ด ประกันราคาข้าวทุกเม็ด โดยชาวนายากจนเหมือนเดิม มีแต่โรงสี พ่อค้าข้าว และนักการเมือง รวยขึ้น ผมว่า ไปแก้ที่ต้นเหตุดีกว่า คือ เพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้นทุกปี เหมือนลาว เวียดนาม ชาวนาไทยจะได้รวยขึ้นทุกปี โดย รัฐไม่ต้องรับจำนำ  และ คนไทยในประเทศก็ไม่ต้องกินข้าวแพงขึ้น เพื่อให้พ่อค้าข้าวและนักการเมืองรวยดีไหม.

www.thairath.co.th

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม