วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555

กสท. ลงดาบสั่งปรับช่อง 3 เป็นเงิน 5 แสนบาท พร้อมห้ามเผยแพร่รายการโป๊-เปลือยซ้ำอีก

ห้ามแพร่ภาพโป๊เปลือย ‘ประวิทย์’ เสียใจเลินเล่อขอโทษ-จะไม่ให้เกิดอีก

บอร์ด กสท. ลงดาบสั่งปรับช่อง 3 เป็นเงิน 5 แสนบาท พร้อมห้ามเผยแพร่รายการโป๊-เปลือยซ้ำอีก ถ้าไม่เชื่อฟังยึดใบอนุญาต ส่วนรายการให้ออกอากาศต่อไป แต่ต้องระมัดระวังการนำเสนอเนื้อหา “ประวิทย์” รับเสียใจที่ช่อง 3 เลินเล่อปล่อยภาพไม่เหมาะสมรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ออก อากาศ ขอโทษประชาชน ย้ำจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก สั่งเข้มงวดการตรวจสอบเนื้อหาทุกรายการ ป้องกันประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

เป็นเรื่องเป็นราวถูกวิจารณ์หนักหน่วงต่อเนื่อง กรณีสาวเปลือยอกใช้นมแทนพู่กันวาดรูป กลางรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 2 หลังจากนายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเวิร์คพอยท์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ออกมายอมรับว่า ตัดสินใจผิดพลาดที่ปล่อยให้โชว์นี้ออกอากาศแม้ว่าจะมีการเซ็นเซอร์แบบเบาๆแล้วก็ตาม พร้อมกันนี้นายปัญญายังขอโทษผู้ชมที่ปล่อยภาพไม่เหมาะสมออกสู่สาธารณะ และรับปากว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในการเผยแพร่ภาพของรายการครั้งต่อไปนั้น ขณะที่ กสทช.เรียกช่อง 3 เข้าชี้แจงเรื่องนี้แล้ว

ทั้งนี้ ที่สำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซอยพหลโยธิน 8 กทม. เมื่อเช้าวันที่ 20 มิ.ย.นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการผู้จัดการไทยทีวีสี ช่อง 3 เปิดเผยขณะเดินทางมาร่วมประชุมกับ กสทช.กรณีจอดำ ถึงเรื่องที่รายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ที่เผยแพร่ภาพไม่เหมาะสมว่า พร้อมรับคำสั่งทางปกครอง หาก กสทช.เห็นว่าคลิปรายการดังกล่าวเข้าข่ายผิดมาตรา 37 ของ พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ 2551 ที่ระบุว่า ผู้รับใบอนุญาตมีหน้าที่กำกับดูแลและตรวจสอบข้อมูลก่อนการนำเสนอ ในกรณีที่มีการตรวจสอบแล้ว และการกระทำดังกล่าวเกิดจากการละเลย คณะกรรมการมีอำนาจสั่งให้ผู้รับใบอนุญาต ดำเนินการแก้ไขตามสมควร หรืออาจพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต ทั้งนี้ ต้องอยู่ที่การชี้แจงของผู้จัดรายการ

นายประวิทย์กล่าวอีกว่า เสียใจกับภาพเหตุการณ์นั้นและไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีก แต่เป็นความคลาด เคลื่อนของผู้จัดมองอีกอย่างหนึ่ง ผู้เซ็นเซอร์มองอีกอย่างหนึ่ง จนเกิดกระแสที่ไม่เหมาะสม ตนเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นความผิดบกพร่องอย่างรุนแรงของทางช่อง ที่ผ่านมาเรามีการเข้มงวดในภาพต่างๆที่ไม่เหมาะสมในการออกอากาศมาตลอด แต่ไม่สามารถที่จะตรวจสอบทุกรายการได้ รวมถึงภาพดังกล่าวเป็นการตัดสินใจ และพิจารณาถึงความเหมาะสมของผู้จัดรายการแล้วว่าสามารถออกอากาศได้ จึงต้องยอมรับในการตัดสิน สังคมมองว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม จากนี้จะเพิ่มความเข้มงวดการตรวจสอบเนื้อหารายการต่างๆมากขึ้น

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน คณะผู้บริหารช่อง 3 นำโดยนายประวิทย์ มาลีนนท์ นายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย รองกรรมการผู้จัดการบริษัท บางกอกเอนเตอร์เทนเม้นท์ฯ และนายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คพอยท์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เดินทางเข้าพบคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหา กสทช.ที่โรงแรมสยามซิตี โดยใช้เวลาการพูดคุยร่วม 2 ชม. จากนั้นนายสมรักษ์ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหาได้เรียกมาชี้แจง เราก็เล่าถึงกระบวนการขั้นตอนว่า เมื่อได้รับเทปมาแล้วพิจารณาอย่างไร มีขั้นตอนการเซ็นเซอร์อย่างไร ก็ยอมรับว่าการที่ปล่อยให้มีภาพดังกล่าวออกอากาศ ถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด แม้เราจะมีการเซ็นเซอร์ ทำโมเสกปิดบังแล้วก็ตาม เราก็แสดงความเสียใจและขอโทษในที่ประชุม อีกทั้งรับรองว่าจะมีมาตรการที่เข้มงวดในรายการที่ออก อากาศมากกว่านี้

เมื่อถามว่าช่อง 3 จะมีมาตรการกับรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์อย่างไร นายสมรักษ์ชี้แจงว่า การชี้แจงในวันนี้นายปัญญา นิรันดร์กุล ก็เข้าร่วมด้วย ซึ่งนายปัญญาก็พูดทำนองเดียวกัน และยืนยันว่าการแสดงของ น.ส.ปอนด์ดังกล่าวไม่ได้เป็นการสร้างกระแส แต่เป็นความตั้งใจที่อยากให้โอกาสทุกคนเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นคนพิการ หรือคนยากจน ไม่เลือกชนชั้นหรืออาชีพ ส่วนกรณี น.ส.ปอนด์นี้ถึงแม้กรรมการจะให้ผ่านไปได้ แต่ทางรายการก็ไม่ได้ปล่อยให้ผ่านเข้ารอบต่อไปอยู่แล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะทำตอนที่มีกระแสในตอนนี้ แต่ทางรายการได้ทำก่อนหน้านี้แล้ว เพราะทางรายการได้บันทึกเทปผ่านทุกขั้นตอนไปก่อนหน้านี้แล้ว

ต่อข้อถามว่าช่อง 3 ว่ากล่าวอะไรเวิร์คพอยท์บ้าง นายสมรักษ์กล่าวว่า ก็มีการพูดคุยและว่ากล่าวตักเตือนไปว่า ให้ระมัดระวังมากขึ้น ขณะเดียวกันก็บอกว่าต่อไปนี้ เราก็จะเข้มงวดในการพิจารณาและเซนเซอร์มากขึ้นด้วย ถ้าไม่แน่ใจช่อง 3 ก็จะตัดภาพออกทันที ที่จริงเมื่อเกิดเรื่องอะไรทุกครั้ง ทางช่องก็นำมาปรับปรุงและระมัดระวังมากขึ้น แม้เราจะระมัดระวังอย่างดีแล้วก็ตาม แต่บางทีเราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรตามมา คือในบางกรณีมันก็ไม่มีอะไรบอกได้ว่าอะไรถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง เพราะมันเป็นความรู้สึก ก็ได้เรียนรู้ว่าสังคมไทยเซนซิทีฟเป็นพิเศษกับเรื่องทำนองนี้ ส่วนจะแบนรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์หรือไม่ ยังบอกไม่ได้ต้องรอผลการประชุมของคณะอนุกรรมการฯ

ต่อมาเวลา 17.30 น. พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการผังรายการและเนื้อหารายการ แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ที่มี พ.อ.นที ศุกลรันต์ รองประธาน กสท. เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมบอร์ด กสท. ได้มติให้ออกคำสั่งทางปกครอง ปรับบริษัทบางกอกเอ็นตอร์เทนเม้นต์ จำกัด หรือสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เป็นเงินสูงสุด 5 แสนบาท หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งทางปกครองดังกล่าว อาจเพิกถอนและเพิกใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการได้ และได้กำชับห้ามเผยแพร่รายการในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีกต่อไป แต่รายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ยังคงดำเนินรายการอยู่ต่อไป แต่ต้องระมัดระวังในการนำเสนอเนื้อหาของรายการเท่านั้น

“จากการหารือกับผู้บริหารช่อง 3 และนายปัญญา นิรันดร์กุล ในฐานะผู้ผลิตรายการไทยแลนด์ ก๊อตทาเลนต์ ที่โรงแรมสยามซิตี้ ทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับว่า มีความบกพร่อง มีความผิดพลาดและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้ขอโทษประชาชนผ่านสื่อออนไลน์แล้ว แม้การกระทำครั้งนี้จะมีความรุนแรงต่อสายตาสาธารณชน แต่ก็เป็นการกระทำผิดครั้งแรก กสท.ไม่เลือกวิธีการตักเตือน แต่เลือกวิธีการสั่งปรับ 500,000 บาท ถือเป็นการลงโทษปรับขั้นสูงสุด จากปรับขั้นต่ำไม่เกิน 50,000 บาท”

พล.ท.พีระพงษ์กล่าวต่อว่า การพิจารณาของคณะอนุกรรมการและบอร์ด กสท.เป็นการพิจารณาภายใต้ พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 โดยรายการดังกล่าวของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เป็นผู้รับอนุญาตหรือสัมปทานจากบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) รายการดังกล่าวมีเจตนาฝ่าฝืนมาตรา 37 ที่กำหนดไว้ว่า ห้ามมิให้ออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระ ที่มีการกระทำที่เข้าลักษณะลามกอนาจาร หรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมเสีย ทางจิตใจหรือสุขภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง ดังนั้น เมื่อการตรวจสอบแล้วเห็นว่า มีการดำเนินการดังกล่าวจริง ก็ต้องลงโทษตามกฎหมาย ถ้าทำซ้ำอีกต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาต

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก สตช. กล่าวถึงเรื่องสาวเปลือยอกวาดภาพว่า ในส่วนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเจ้าของพื้นที่ที่มีการเผยแพร่เป็นของ บช.น. เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนที่ 2 คือจะเป็นไปตาม พ.ร.บ. ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ซึ่ง กสทช.รับผิดชอบอยู่ จะเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ ส่วนประเด็นกฎหมายอาญา ถ้าพยานหลักฐานปรากฏชัดเจนว่าเป็นการกระทำอนาจาร ป.อาญา มาตรา 300 มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท แต่สิ่งสำคัญเป็นเรื่องความรับผิดชอบของสังคมมากกว่า ต้องมีการพูดคุยกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถจะให้ความร่วมมือเรื่องนี้ ส่วนผู้ให้การสนับสนุนชักชวนถือว่า ไม่เหมาะสม กฎหมายอาญามีอยู่มาตรา 84 ผู้ใดยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำผิดต้องรับโทษเหมือนผู้กระทำผิด มาตรา 86 ผู้ใดช่วยเหลือต้องรับโทษด้วย

ทางด้านความเคลื่อนไหวที่จังหวัดแพร่ บ่ายวันเดียวกัน นายเอกชัย วงศ์วรกุล ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ ร่วมกับนางแสงพลอย มุ้งทอง นายกสมาคมสตรีจังหวัดแพร่ เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงกรณี น.ส.ดวงใจ จันทร์สระน้อย หรือปอนด์ สาวแพร่ เปลื้องผ้าใช้นมวาดรูปจนถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ขณะที่สื่อมวลชนบุกไปพิสูจน์ถึงบ้านของ น.ส.ดวงใจที่ อ.ลอง จ.แพร่ พบว่าทางบ้านมีฐานะยากจน บิดาวัย 70 ปี ก็ป่วยเป็นอัมพาต มารดาต้องช่วยเลี้ยงลูกวัย 6 เดือนของ น.ส.ดวงใจ ที่ต้องแบกภาระทำหน้าที่หาเลี้ยงครอบครัวและส่งน้องสาวเรียนหนังสือนั้น

นายเอกชัยกล่าวว่า มีคนโทรศัพท์มาหาตนจำนวนมากถึงบทบาทสภาวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ และข่าวที่ออกมาก็ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงจังหวัดแพร่ ในนามชาวจังหวัดแพร่ขอประณามการกระทำของผู้ผลิตรายการนี้ อยากให้เจ้าของผู้ผลิตรายการ มีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ไม่ใช่เพียงขอโทษประชาชน เช่น รับผิดชอบด้วยการหยุดออกอากาศ หรือหยุดแพร่ภาพกี่เดือนกี่วัน เป็นต้น อยากให้ผู้รับผิดชอบเอาเรื่องนี้มาพิจารณากันจริงจัง

ด้านนางแสงพลอยกล่าวว่า สมาคมได้ติดตาม ตรวจสอบความเป็นมาเป็นไปของ น.ส.ดวงใจว่าถูกบังคับขู่เข็ญหรือไม่ เรื่องของความผิดเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เรื่องจริยธรรม คุณธรรม เป็นเรื่องส่วนตัว ผิดก็ว่ากันไป สมาคมไม่ได้ปกป้องอะไร แต่ต้องดูที่เจตนาของ น.ส.ดวงใจด้วย ส่วนครอบครัวที่มีปัญหา ก็หาทางช่วยเหลือกัน อยากให้ น.ส.ดวงใจ ออกมาพูดความจริงกับทุกฝ่ายเพื่อให้กระจ่าง ขอยืนยันเจตนาของสตรีเมืองแพร่ว่าไม่เห็นด้วย และขอเรียกร้องให้ผู้รับผิดชอบทุกฝ่ายออกมารับผิดชอบให้มากกว่าที่ทำกันในขณะนี้

ในส่วนของครอบครัวของ น.ส.ดวงใจ หลังจากที่เป็นข่าวออกไป ช่วงสายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแพร่ ได้นำรถเข็นไปมอบให้นายจันทร์ พ่อของ น.ส.ดวงใจที่เป็นอัมพาตนานถึง 11 ปี ได้นั่งบ้างแทนการนอนจนหลังเปื่อย นอกจากนั้น ยังมีเพื่อนบ้านจำนวนมาก ทยอยกันไปให้กำลังใจนางไฮ จันทร์สระน้อย แม่ของ น.ส.ดวงใจอย่างไม่ขาดสาย โดยนางไฮได้กราบขอโทษประชาชนและสังคมแทนลูกสาวอีกครั้งที่หวังแต่เงินเพื่อจะเอามาช่วยเหลือครอบครัว

นายชูชาติ คำมา ปลัดอำเภอลอง รักษาราชการแทนนายอำเภอลอง เผยว่า วันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิมิราเคิลออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบล รัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ติดต่อมาเพื่อที่จะให้การช่วยเหลือครอบครัวของ น.ส.ดวงใจ จันทร์สระน้อย โดยจะส่งเจ้าหน้าที่มาประสานให้ความช่วยเหลือในเร็วๆนี้

m.thairath.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม