วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555

สลด ก๊กหึงโหด ฆ่าหมกศพสาวใหญ่อย่างน่าอนาถ

เสน่ห์ของสาวใหญ่มักมีกลิ่นหอมรัญจวนใจเปรียบได้ดั่งกระดังงาลนไฟ เป็นที่หมายปองของชายหนุ่ม แต่เสน่ห์อันร้อนแรงดังกล่าวอาจย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองจนถึงชีวิตได้ อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เมื่อสาวเจ้าเสน่ห์ถูกกิ๊กหนุ่มฆ่าหมกศพไว้หลังบ้านอย่างน่าอนาถ
เหตุการณ์ฆาตกรรมจากพิษรักแรงหึงครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อญาติของ น.ส.พิสมัย หรือ ไอซ์ ภูนาขาว อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 179 หมู่ที่ 11 บ้านปันน้ำใจ ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ขึ้นโรงพักน้ำพอง แจ้งความต่อ พ.ต.ท.อภินันท์ รักศิลป์ พงส.สบ 3 ให้ตำรวจช่วยสืบหาตัว เพราะหายไปอย่างไร้ร่องรอย พร้อมรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวารา สีเทา-ดำ ทะเบียน ญธ 2740 กรุงเทพมหานคร
หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ทองไพบูลย์ ผกก. สั่งการให้ ร.ต.ต.ประภาส น้อยเลาหะกุล รอง สวป. ออกติดตามสืบหาเบาะแสทั้งหมดที่จะเชื่อมโยงไปยังการหายตัวไป ทำให้ทราบว่าปกติน.ส.พิสมัยใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ และเป็นภรรยาของนักธุรกิจส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปไปยังต่างประเทศ มีฐานะเข้าขั้นเศรษฐี
แต่เนื่องจากเป็นห่วงมารดาที่ชรามากแล้ว และอยู่เพียงลำพังจึงย้ายกลับมาอยู่เป็นเพื่อน แต่ยังติดนิสัยชอบดื่มกินเที่ยวเตร่เป็นประจำ และคบหากับชายหนุ่มมากหน้าหลายตา ทั้งยังชอบเลี้ยงดูเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่มีอายุอ่อนกว่า
ก่อนจะหายตัวไป น.ส.พิสมัยมีสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งอยู่กับชายหนุ่มวัย 22 ปี ชื่อ นายทวีศักดิ์ อาษา อยู่บ้านเลขที่ 86 หมู่ที่ 1 บ้านกุดยาลวน ต.กุดยาลวน อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี
เจ้าหน้าที่ตัดสินใจเริ่มสืบหาเบาะแสจากกิ๊กวัยรุ่นรายนี้ แล้วก็คลำมาถูกทางจนได้
แม้จะไม่เจอตัวกิ๊กหนุ่ม แต่ยายของนายทวีศักดิ์ให้การว่า ก่อนหน้านี้หลานชาย มักพา น.ส.พิสมัยมาเที่ยวบ้านเป็นประจำ แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม หลานชายมาเที่ยวงานบุญบั้งไฟ โดยขับรถของน.ส.พิสมัยมาเพียงลำพัง นอกจากนั้นยังนำโทรทัศน์สีจอแบน ยี่ห้อเจวีซี ขนาด 42 นิ้ว ไว้ให้ 1 เครื่อง บอกว่าเป็นของฝาก
ระหว่างที่อยู่ในหมู่บ้านก็ทำตัวอวดร่ำรวยซื้อเหล้ามาทีละเป็นลัง เลี้ยงดูปูเสื่อเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันอย่างไม่อั้น ก่อนหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน หลังจากนั้นนายทวีศักดิ์ยังโทรศัพท์ไปบอกญาติที่กรุงเทพฯ ว่า บีบคอ น.ส.พิสมัยจนตายคามือ จากนั้นวางสายไป
เจ้าหน้าที่จึงมั่นใจว่ากิ๊กวัยรุ่นรายนี้เป็นคนร้าย จึงสืบหาจากการใช้สัญญาณโทรศัพท์มือถือของน.ส.พิสมัย พบว่ามีประวัติการใช้งานในเวลาดังกล่าวที่ อ.บุญทริก จึงติดตามไปจับกุมตัวได้ในที่สุด ขณะกำลังนำรถของสาวใหญ่คู่กิ๊กไปขายใช้เป็นทุนในการหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อหลบหนีคดีที่ก่อไว้
นายทวีศักดิ์ให้การอย่างไม่สะทกสะท้านว่า มีสัมพันธ์ ลึกซึ้งกับ น.ส.พิสมัยมาระยะหนึ่งแล้ว มักพาไปหาความสำราญกันเป็นประจำ รวมถึงมักไปเที่ยวเตร่ตามแหล่งสถานบันเทิงต่างๆ เกือบทุกคืน
กระทั่งวันที่ 25 พฤษภา คม ทั้งคู่ไปนั่งดื่มกินกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัว อ.น้ำพอง เมื่อเริ่มมีอาการ มึนเมาจนได้ที่ นายทวีศักดิ์อ้างว่าน.ส.พิสมัยพูดคุยกับโต๊ะอื่นอย่างสนิทสนม
ด้วยความโมโหตรงเข้าไปกระชากแขนพาตัวกลับบ้านทันที
ทันทีที่ถึงบ้านทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน เพราะเมาสุรากันเต็มที่ทั้งสองฝ่าย สุดท้ายนายทวีศักดิ์สารภาพว่าคุมอารมณ์ไม่อยู่ ใช้สองมือบีบคอคู่ขาจนแน่นิ่ง
เมื่อตั้งสติได้รีบนำร่างสาวคู่ขาไปฝังยังป่าไผ่หลังบ้าน ก่อนย้อนเข้าไปในบ้านกวาดทรัพย์สิน ทีวีสีจอแบนยี่ห้อเจวีซี 42 นิ้ว 1 เครื่อง ยี่ห้อซัมซุง 32 นิ้ว 1 เครื่อง ทองรูปพรรณพร้อมพระเลี่ยมทองน้ำหนัก 5 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และบัตรเอทีเอ็ม ธนาคารกรุงเทพ 1 ใบ
จากนั้นขับรถกระบะของผู้ตายนำทรัพย์สินไปขาย เหลือเพียงทีวีสี 42 นิ้ว ที่นำไปให้ยาย ส่วนเงินที่ได้ทั้งหมดนำไปเลี้ยงดูเพื่อนฝูงจนหมด จึงคิดที่จะนำรถกระบะไปขายเป็นทุนใช้หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไม่รอดถูกตำรวจตามตะครุบตัวได้ในที่สุด
ถูกตั้งข้อหาฉกรรจ์ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา กระทำการใดๆ ต่อศพโดยทุจริตโดยการซ่อนเร้นเพื่ออำพรางคดี ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะหรือรับของโจรปิดฉากพิศวาสฆาตกรรมไปอีกคดี

www.khaosod.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม